คนไทยที่อยู่ในกลุ่มมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เช่น มีอาการหลับยาก หลับ ๆ ตื่น ๆ นอนหลับไม่ต่อเนื่อง ใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับได้ มีอาการตื่นกลางดึกบ่อย พอตื่นแล้วก็ไม่หลับ รวมไปถึงการตื่นเช้าเกินไปจนทำให้นอนไม่พอ แต่ด้วยงานศึกษาวิจัยที่ค้นพบว่าสารสำคัญในน้ำมันกัญชามีส่วนช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้น ทำให้หลับได้นาน เพิ่มระยะหลับลึก และลดระยะหลับฝัน ทำให้ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับหาซื้อน้ำมันกัญชาเพื่อช่วยการนอนหลับมาทดลองใช้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้ศึกษาข้อมูลและวิธีการใช้อย่างเข้าใจ
สารสำคัญในน้ำมันกัญชาเพื่อช่วยการนอนหลับ
หากพูดถึงสารสำคัญออกฤทธิ์ในน้ำมันกัญชาจะมีมากกว่า 100 ชนิด แต่สำหรับน้ำมันกัญชาที่ช่วยการนอนหลับจะมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ 2 ชนิด คือ THC และ CBD โดยการออกฤทธิ์ที่มีผลต่อการนอนหลับจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้น ปริมาณ และสัดส่วนของ THC กับ CBD รวมถึงลักษณะการใช้งาน เช่น เป็นยาเม็ด หยดใต้ลิ้น หรือเหน็บที่ทวารหนัก อีกทั้งแต่ละคนก็มีความไวต่อสารสำคัญทั้งสองชนิดแตกต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างด้วยเช่นกัน
สัดส่วนของสารสำคัญในน้ำมันกัญชาเพื่อช่วยการนอนหลับ
การเลือกใช้น้ำมันกัญชาเพื่อการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ ควรสังเกตฉลากหรือรายละเอียดก่อนใช้เสมอว่ามีปริมาณสัดส่วนของสาร THC และ CBD อย่างไร ถ้ามีปริมาณสาร THC สูงกว่าสาร CBD หลายเท่า จะทำให้ระบบประสาทเกิดการตื่นตัวมากกว่าง่วงนอน ในขณะที่น้ำมันกัญชามีปริมาณสัดส่วนของสาร CBD มากกว่าสาร THC จะช่วยต้านฤทธิ์ของสาร THC เพื่อลดความวิตกกังวลและทำให้หลับง่ายหรือนอนหลับนานขึ้น
1. ปริมาณการใช้น้ำมันกัญชา
ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์ใช้สมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพมาก่อน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาที่ช่วยเรื่องการนอน ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะลองใช้เป็นครั้งแรกแล้วกังวลว่าจะไม่ได้ผล ทำให้ใช้มากเกินไปจนมีอาการกระสับกระส่ายแล้วนอนไม่หลับ หรือถ้าใช้น้อยเกินไปก็ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ เพราะฉะนั้นในการใช้น้ำมันกัญชาครั้งแรก ควรทดลองใช้น้อยๆเพียง 1-2หยดก่อน หากไม่เห็นผลสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
2. ข้อจำกัดของการใช้น้ำมันกัญชา
การใช้สมุนไพรใด ๆ ก็ตาม แม้ว่าจะมีคุณประโยชน์อย่างมากมายที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ก็มีข้อเสียหรือข้อจำกัดที่ควรต้องระมัดระวัง อย่างเช่นน้ำมันกัญชาที่มีประสิทธิภาพช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น พอใช้ไปนาน ๆ ก็อาจจะต้องเพิ่มปริมาณการใช้ เนื่องจากร่างกายของเราทนต่อการออกฤทธิ์ของสารสำคัญนั่นเอง หากหยุดใช้เองโดยไม่ได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำของผู้ผลิตก็อาจเกิดปัญหานอนไม่หลับหรือคุณภาพการนอนหลับแย่ลงในที่สุด
3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ
เพื่อให้การใช้น้ำมันกัญชาสำหรับการนอนหลับ ควรจัดสภาพแวดล้อมและห้องนอนให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย จากนั้นเตรียมพร้อมตัวเองกับการนอนหลับที่มีคุณภาพ
- เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้เวลาอยู่กับหน้าจอช่วงก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้นอนไม่หลับ
- ไม่ออกกำลังกายก่อนเข้านอน
- ไม่อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่เมื่อใกล้เวลานอน
- ไม่งีบนอนช่วงกลางวัน
- ปรับสภาพจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด ไม่คิดวิตกกังวล
- หากเข้านอนแล้วนอนไม่หลับภายใน 20 นาที ไม่ควรฝืนนอนต่อ ควรลุกออกจากเตียงทันที ทำกิจกรรมที่เงียบสงบอย่างเช่นอ่านหนังสือหรือนั่งสมาธิ พอรู้สึกง่วงจึงค่อยกลับมานอนต่อ
4. อาการแฮงก์โอเวอร์จากการใช้น้ำมันกัญชา
เนื่องจากการใช้น้ำมันกัญชาเพื่อสุขภาพยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่พอสมควร จึงเป็นเรื่องปกติที่ผู้ใช้น้ำมันกัญชาเพื่อการนอนหลับจะมีอาการวิงเวียน รู้สึกมึนศีรษะ หรือหลังตื่นนอนแล้วมีอาการงงงวยแปลก ๆ คล้ายกับอาการเมาค้างจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่อาการแฮงก์โอเวอร์จากน้ำมันกัญชาจะเกิดขึ้นเพียงระยะแรก ๆ เท่านั้น เมื่อร่างกายปรับสภาพได้ก็จะมีอาการลดน้อยลง ช่วงระหว่างวันควรดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พร้อมกับสังเกตอาการของตัวเองร่วมด้วยว่ามีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
5. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ
ผลลัพธ์อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากการใช้น้ำมันกัญชาช่วยนอนหลับคือ “การไม่ฝัน” เพราะสารออกฤทธิ์สำคัญในน้ำมันกัญชาจะเข้าไปจำกัดรอบการนอนหลับ REM Sleep หรือที่เรียกว่า “วงจรของการนอนหลับ” อันมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดความฝันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ส่งผลให้มีอาการนอนหลับไม่สนิทจนกระทั่งพักผ่อนไม่เพียงพอ
ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า REM หรือ Rapid Eye Movement sleep มีความสำคัญต่อการพักผ่อนอย่างยิ่ง แม้ว่ายังต้องศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสารออกฤทธิ์สำคัญในกัญชากับการนอนหลับต่อไปก็ตาม แต่ระหว่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชาไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ควรเฝ้าสังเกตอาการและพฤติกรรมการนอนหลับของตนเองอยู่เสมอ
ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณสารออกฤทธิ์ CBD ที่เป็นขนาดมาตรฐานสำหรับใช้ประโยชน์จากน้ำมันกัญชาเพื่อช่วยการนอนหลับ แต่ในงานวิจัยระบุว่าการใช้เพียง 25 – 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ดังนั้นควรเริ่มต้นใช้ทีละน้อยแล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณน่าจะดีต่อความปลอดภัยของเราอีกด้วย ซึ่งจะเห็นผลได้ก็ต่อเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 – 3 สัปดาห์